กสม. จัดประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะฯ

08/07/2565 155
กสม. จัดประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะฯ
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 น. นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้หารือร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สถาบันพระปกเกล้า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้อำนาจตามกฎหมายและข้อจำกัดในทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนเพื่อการอันจำเป็นในกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น การก่อสร้างทางหลวงพิเศษ ทางหลวงชนบท อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ถูกเวนคืน ทั้งเรื่องการสูญเสียที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ รวมถึงการได้รับค่าทดแทนที่ไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ในเรื่องดังกล่าวแม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 37 กำหนดไว้ว่า การเวนคืนจะสามารถกระทำได้เพื่อการอันเป็นสาธารณูปโภค การป้องกันประเทศ หรือการได้มาซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น แต่ผู้ที่ถูกเวนคืนจะต้องได้รับการชดใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรมภายในเวลาอันควร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นว่า ผู้ที่ถูกเวนคืนนั้น เป็นผู้เสียสละทรัพย์สินของตนหรือสิทธิบางอย่างเป็นพิเศษ เช่น สิทธิทำกิน หรือสิทธิในที่อยู่อาศัย เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้น การได้รับการชดใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรม จึงเป็นเรื่องสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกเวนคืน โดยการกำหนดเงินค่าทดแทนและชดเชยให้กับผู้ที่ถูกเวนคืน ต้องพิจารณาให้ครอบคลุมถึงมาตรฐานที่เพียงพอต่อการครองชีพ วิถีชีวิต และการประกอบอาชีพหรือกิจการธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ที่ถูกเวนคืนจะต้องสามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี คุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้รับนั้น ต้องไม่น้อยกว่าเดิมก่อนที่จะถูกเวนคืน
เลื่อนขึ้นด้านบน