เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2557 ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่เยี่ยมชาวโรฮิงญาผู้ลักลอบเข้าเมือง ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีกลุ่มชาวโรฮิงญาที่ถูกกักไว้ จำนวน 42 คน ที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายเพื่อขายแรงงานและบางส่วนอยู่ในข่ายองค์ประกอบ การค้ามนุษย์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดสงขลากักไว้ประมาณ 500 คน โดยส่งไปพักพิงตามแหล่งต่างๆ ของจังหวัด แต่ก็อยู่กันอย่างแออัดมีปัญหาเรื่องสถานที่กัก ปัญหาสุขภาพมีผู้เจ็บป่วย และมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมผู้ถูกกักที่แจ้งว่าเป็นเชื้อสายตุรกี จำนวน 220 คนด้วย
ต่อ จากนั้นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ประชุมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ศาลากลางจังหวัดสงขลาเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันในเรื่องชาวโร ฮิงญาที่ป่วยและต้องการการฟื้นฟูสุขภาพ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงาน ศอ.บต. ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในพื้นที่ 3 แห่ง และภาคประชาชน ได้ข้อสรุปการช่วยเหลือชาวโรฮิงญาตามหลักมนุษยธรรมที่เกิดจากการเจ็บป่วย ว่า การพิจารณาอนุญาตให้ผู้ป่วยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งได้รับการฟื้นฟูในสถานที่ซึ่งมิใช่ห้องกักนั้นสามารถทำได้ โดยเป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 19 วรรคแรก ที่กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตให้บุคคลต่างด้าว นั้นไปพักอาศัยอยู่ ณ ที่สมควรโดยให้คำรับรองว่าจะมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบคำสั่งตาม วันเวลาและสถานที่กำหนดก็ได้ หรือถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรจะเรียกหลักประกันก็ได้
นาย อิสมาแอน หมัดอาดำ ประธานเครือข่ายช่วยเหลือโรฮิงญาแห่งประเทศไทย ได้เสนอว่า ช่วงที่ผ่านมาทางเครือข่ายฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการแพทย์แก่ผู้ป่วยชาวโรฮิงญา รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณ กว่า 3 ล้านบาท ในเรื่องการสนับสนุนค่าอาหาร และการสนับสนุนเครื่องกรองน้ำให้กับห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นลักษณะที่ยังไม่เป็นทางการ ดังนั้นเห็นว่า เพื่อให้การประสานงานในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยชาวโรฮิงญาที่ต้องได้รับ การฟื้นฟู และชาวโรฮิงญาที่อยู่ในห้องกักอย่างเป็นระบบ จึงเสนอให้ทางราชการ แต่งตั้งคณะทำงานประสานงานเรื่องการช่วยเหลือชาวโรฮิงญาให้เป็นกิจลักษณะต่อ ไป ซึ่งผู้แทนองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะทำหน้าที่ประสานงานในคณะทำงาน ดังกล่าว
ในประเด็นข้อเสนอดังกล่าวข้างต้น ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า จะมีหนังสือถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานดังกล่าวเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยตามหลักมนุษยธรรมต่อไป