เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับเพจ forestbook กรณีข้อพิพาทหน่วยงานของรัฐประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ทับพื้นที่ป่าชุมชนบ้านห้วยบง ตำบลทาเหนือ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า จากข้อเท็จจริงทราบว่าชาวบ้านในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านห้วยบง ได้ดูแลป่าแห่งนี้มาเป็นเวลายาวนาน โดยมีการจดแจ้งขึ้นทะเบียนป่าชุมชนกับกรมป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ.2562 และได้จัดทำแผนจัดการป่าชุมชน ประกอบด้วยโครงการอนุรักษ์ การฟื้นฟู การพัฒนา การควบคุมดูแล และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในป่าชุมชนเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดเห็นชอบแผนดังกล่าวโดยส่งเรื่องต่อไปยังกรมป่าไม้เพื่อประกาศในพระราชกฤษฎีกาต่อไป ตามมาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ.2562 แล้ว ป่าชุมชนบ้านห้วยบงจึงถือเป็นป่าชุมชนตาม พ.ร.บ.นี้ และมิให้นำกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามาใช้บังคับในพื้นที่ป่าชุมชน แต่พบว่าการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ได้ทับซ้อนพื้นที่ป่าชุมชนบ้านห้วยบง ซึ่งเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคของ แผนที่ GIS ( Geographic Information System) จึงต้องมีการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติกันใหม่ และกันพื้นที่ป่าชุมชนออกจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติ
“นโยบายเพิ่มพื้นที่ป่า 40% ควรใช้มาตรการส่งเสริมโดยประชาชนดูแลรักษาป่าชุมชน ร่วมกับรัฐที่ดูแลรักษาป่าประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะป่าชุมชนที่ชาวบ้านดูแลรักษาป่าก่อนบังคับใช้กฎหมายป่าชุมชน ปี 2562 ได้แก่ป่าชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อการอนุรักษ์ ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 ชั้น 2 ในพื้นที่ป่าเตรียมการประกาศเป็นเขตอุทยาน หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และในพื้นที่ที่เป็นโบราณสถาน หรือมีคุณค่าในการอนุรักษ์ เพราะจะทำให้การเพิ่มพื้นที่ป่ามีความรวดเร็วยิ่งขึ้น หากชาวบ้านดูแลป่าชุมชนไม่ได้ในอนาคต กฎหมายป่าชุมชนได้จัดให้มีระบบติดตามประเมินผล ก็สามารถเพิกถอนป่าชุมชนได้ และพื้นที่ดังกล่าวจะกลับมาเป็นที่ดินของรัฐก่อนการประกาศเป็นเขตป่าชุมชน” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าว
อนึ่ง เพจ forestbook เป็นเพจที่นำเสนอความเคลื่อนไหว รูปธรรม และแนวทางในการปฏิรูประบบการจัดการทรัพยากร ทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เพื่อความเข้าใจร่วมกันของทุกคนในสังคม