Sorry, your browser does not support JavaScript!
-
A A A
+
  • youtube
  • facebook
  • English Thai
ผลการดำเนินงาน View : 121
แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอคัดค้านการบังคับใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นการทั่วไป ในหลายพื้นที่
                คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในขณะนี้ ด้วยความห่วงใยและวิตกกังวลในแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ซึ่งได้มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไปแล้วต่างกรรมต่างวาระ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายใดก็ตาม เพราะไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหา มีแต่ทําให้การชุมนุมและการต่อสู้ของประชาชนขยายตัวยิ่งขึ้น
                นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยังเห็นว่าตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ ๒๒ มกราคม - ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ การประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจะส่งผลกระทบที่สําคัญต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และจะยิ่งทําให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น ในประการสําคัญยังละเลยและมองข้ามกลไกและระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของ องค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องทําหน้าที่ถ่วงดุลอํานาจฝ่ายบริหารให้ใช้อํานาจรัฐตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญ และถูกต้องทํานองคลองธรรม นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เคยมีข้อเสนอแนะท้วงติงการประกาศใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉินมาอย่างต่อเนื่องตลอดมา และในครั้งนี้แม้มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว แต่ในประเด็นของความฉุกเฉินและความจำเป็นที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้ อำนาจเพิ่มขึ้นจากเดิมยังไม่ชัดเจน
                การประกาศใช้พระราชกำหนดนี้ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจค้น จับกุม และควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยว่าจะกระทำความผิดโดยไม่มีหลักประกันสิทธิและ เสรีภาพตามที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๕๐ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นการละเลยและไม่ให้ความสำคัญต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานอันเกี่ยว ด้วยสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ การที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐควบคุม สั่งระงับยับยั้งการสื่อสารใดๆของสื่ออาจนำไปสู่การปิดกั้น และลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนได้ ทั้งยังเป็นการจำกัดเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนไปในขณะเดียวกัน
                คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เคารพสิทธิและเสรีภาพของทุกฝ่าย จึงมีข้อเสนอ ดังนี้
                ๑. รัฐบาลควรยกเลิกการประกาศการบังคับใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทันที เนื่องจากสถานการณ์และองค์ประกอบยังไม่เข้าขั้นสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเพียงพอ และให้มุ่งเน้นบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ และไม่กระทบสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั่วไป
                ๒. ผู้จัดการชุมนุมทุกกลุ่มทุกฝ่ายและผู้เข้าร่วมชุมนุม ต้องไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการยั่วยุ ปลุกเร้า อีกทั้งต้องระมัดระวังการดำเนินการใดๆ อันอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และต้องชุมนุมให้เป็นไปโดยความสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ หรือสิ่งเทียมอาวุธทุกชนิดในพื้นที่การชุมนุม โดยยึดแนวทางสันติวิธี หลักนิติธรรม ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
                ๓. สื่อมวลชนทุกแขนงควรระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ถูกต้องตามความ เป็นจริงภายในกรอบของกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

23/01/2557

© 2015 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ. All Right Reserved.
นโยบายเว็ปไซต์ | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์.

  ipv6 ready 
จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด
5397898
คน
จำนวนผู้เข้าชมวันนี้
131
คน